วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เรื่องเล่าจากคลินิกอดบุหรี่ รพ.ท่าตูม จังหวัด สุรินทร์


เรื่องเล่าจากประสบการณ์การให้การบำบัดบุหรี่

โรงพยาบาลท่าตูมเปิดคลินิกบำบัดบุหรี่มาได้ประมาณ 5 ปี แต่สำหรับตัวดิฉันมารับงานการบำบัดบุหรี่เข้าปีที่ 2 สาเหตุเนื่องจากเป็นพยาบาลที่มีโรคประจำตัวเป็นโรครูมาตอยด์ปวดแขนข้างขวาซึ่งไม่เหมาะสมในการให้การพยาบาลบางอย่างได้เช่น ไม่สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยด้วยการปั้มหัวใจได้ ซึ่งหัวหน้าได้จัดไห้มาอยู่ก้อไม่เคยให้การบำบัดหรืออบรมการบำบัดบุหรี่มาก่อนเลยจึงอาศัยการหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตและขอคำแนะนำจากผู้ที่เคยผ่านการอบรมเกี่ยวกับการดูแลผู้ติดบุหรี่ซึ่งเป็นเภสัชกรได้รับหนังสือมาและได้ศึกษาวิธีการ 

สำหรับ Case ที่ดิฉันรู้สึกประทับใจมากและไม่คิดว่าจะสามารถทำให้ท่านผู้นี้หยุดการสูบบุหรี่ได้คือ พระภิกษุที่ป่วยเป็นจิตเวชมาประมาณ 10 ปี เริ่มจากแพทย์ OPD บอกว่าปากเหม็นจากการสูบบุหรี่ ครั้งแรกที่พบท่านรู้สึกกลัวเพราะเป็นจิตเวชด้วยเคยเห็นท่านมารับยาจิตเวชบ่อยครั้งในใจคิดว่าคนปกติยังจะเลิกบุหรี่ยากเลยเราจะเอาแรงจูงใจอะไรมาใช้กับท่านดี ท่านเล่าไห้ฟังว่าเป็นบ้าเมียจึงเลิกไม่มีลูกหรอกเมื่อญาติๆเห็นจึงไห้บวชเพื่อจะหายบ้าพอมาบวชก็รับยาจิตเวชตลอด  ส่วนบุหรี่สูบมานานแล้วยิ่งเป็นพระยิ่งมีคนเอามาถวายและจำเป็นต้องสูบและมีเวลาว่างมาก ไม่รู้จะทำอะไรก็ต้องคิดถึงบุหรี่ ช่วงนี้เริ่มมีอาการไอมากขึ้น จึงส่งท่านไห้แพทย์ตรวจได้เอ็กซเรย์พบว่าปอดไม่ดีแล้วน่ะ ต้องหยุดสูบบุหรี่ จึงนัดมาที่คลินิกสัปดาห์ล่ะ1 ครั้ง และพบว่า 2สัปดาห์แรกยังมีการสูบบุหรี่อยู่แต่ลดลงกว่าเดิม  เนื่องจากรู้สึกไม่เป็นสุขมีความกระวนกระวายใจ เกาหัวจนหัวเจ็บ แล้วท่านก็บ่นไปพร้อมกับหัวเราะ (พระหัวโล้นจะมองเห็นรอยเกาชัดเจน) จึงได้ให้กำลังใจท่านบอกว่า"ท่านเก่งมาก" แต่ละครั้งที่ท่านมาก็จะบอกท่านว่า "ท่านเป็นคนสำคัญของชาวบ้านเวลาท่านเทศนา ถ้าไม่มีกลิ่นปากก็จะทำให้คนฟังชอบท่านและด้วยเป็นคนที่ชาวบ้านนับถือ สามารถชวนไห้คนในชุมชนลดละเลิกบุหรี่ แล้วถ้าท่านสามารถเลิกได้ 100คนจะศรัทธาท่านมากเพราะการหยุดสูบบุหรี่มีน้อยคนนักจะเลิกได้" การเลิกบุหรี่ของท่านคือ ซื้อลูกอมมาอมวันละ 20 บาท (15เม็ด/วัน)  หลังจากผ่านสัปดาห์ที่ 3 หยุดสูบได้  แต่เปลี่ยนจากลูกอมมาเป็นหมากฝรั่งแทน (เนื่องจากรู้สึกปวดฟันและเหงือก)  
เมื่อผ่านไป 1 เดือน  จึงนัดทุกครั้งที่ท่านมารับยาจิตเวช เวลาท่านมาแต่ละครั้งดูมีสีหน้ายิ้มแย้มพูดคุยว่าได้เทศนาให้คนในหมู่บ้านเลิกบุหรี่ตามที่คุณหมอไห้ความรู้ไป  พระในวัดอีก 3 ท่านก็ไม่สูบแล้ว  แต่พระหนุ่มสอนให้เลิกยาก เค้ามาบวชไม่นานก็สึก  จึงไม่เลิกสูบบุหรี่ วันนี้วันที่ 28 ธันวาคม 2554  ท่านมารับยาจิตเวชและมาคลินิกบำบัดบุหรี่ตามนัด  (7เดือนแล้วที่ท่านหยุดสูบบุหรี่)  ท่านเดินมาพร้อมกับเสียงหอบ ท่านบอกว่าที่หอบเพราะอ้วนขึ้นวันนี้เดินไปหลายที่พอท่านนั่งพักหายหอบ ท่านบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่ต้องเคี้ยวหมากฝรั่งแล้วรู้สึกสบายมากไม่ไอ เหมือนแต่ก่อนจึงพูดชมเชยท่าน และบอกท่านว่าทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติต้องการบุคคลตัวอย่างที่เลิกบุหรี่ได้ไว้เป็นแบบอย่างท่านจะว่าอย่างไร  ท่านบอกว่าได้เลย (สีหน้าแสดงความดีใจ) วันนี้ท่านได้คุณค่าในชีวิตกลับวัด และท่านสามารถบอกคนต่อๆไปได้ว่าบุหรี่เลิกเถอะมันไม่ดี