เรื่องที่ 1
: คนไข้คนแรก
เป็นครั้งแรกที่ผมได้ทำงานในคลินิกอดบุหรี่
พี่ๆที่หน่วยงานให้โอกาสผมได้เข้ามาเป็นผู้ช่วยในการบำบัดบุหรี่
ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมเป็นนักจิตวิทยาประจำโรงยาบาลบัวใหญ่
เป็นน้องใหม่ที่พึ่งเข้าทำงานได้ไม่ถึงปี และการที่ได้ทำงานในด้านนี้นั้นทำให้ผมได้ประสบการณ์ต่างๆมากมาย
ดังที่ผมจะได้เล่าต่อไปนี้
ผมได้ทำงานได้ไม่นานก็มีผู้ป่วยที่คลินิก
COPD
ได้ส่งผู้ป่วยเป็นคุณลุงคนหนึ่ง ที่มีโรคประจำตัวเป็นถุงลมโปร่งพอง
และยังสูบบุหรี่อยู่มาเข้าคลินิกอดบุหรี่และนี่ก็เป็นคนไข้คนแรกของผม
ผมใช้เวลาคุยกับคุณลุงประมาณครึ่งชั่วโมงได้ให้ดู Power Point เกี่ยวกับโทษพิษภัยบุหรี่ ข้อเสียของการสูบบุหรี่ และวิธีการเลิกบุหรี่
หลังให้ดูและคุยกับคุณลุง คุณลุงก็ได้บอกผมว่าจะลองพยายามเลิกดู
แต่จากการสังเกตสีหน้าและแววตา ท่าทางทำให้ผมคิดว่าคุณลุงคงยังไม่อยากเลิกเท่าไหร่
แต่ไม่เป็นไรยังไงก็ขอให้คุณลุงได้ลองพยายามดูก่อน
แล้วผมก็ได้นัดคุณลุงมาติดตามผลอีกหนึ่งสัปดาห์
พอครบหนึ่งสัปดาห์คุณก็ไม่ได้มาตามนัด ผมจึงได้โทรศัพท์ไปหาคุณลุง
ครั้งแรกที่โทรไป คุณลุงไม่ได้รับสาย แต่เป็นภรรยาของคุณลุงรับสายแทน ผมจึงถามภรรยาคุณลุงว่า
เป็นยังไงบ้างครับช่วงนี้ อาการของคุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ
แล้วคุณลุงยังสูบบุหรี่อยู่ไหมครับ คุณป้าก็ตอบผมกลับมาว่า
ยังเหมือนเดิมอยู่นะคะคุณหมอ แต่รู้สึกว่าจะสูบบุหรี่น้อยลงนะคะ
ผมจึงบอกว่าถ้าอาการของคุณลุงยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแย่ลงให้รีบพามาโรงพยาบาลด่วนเลยนะครับ
เนื่องจากคุณลุงเป็นคนไข้คนแรกของผมและมีโรคประจำตัวเป็นโรคถุงลมโปร่งพองจึงทำให้ผมอยากจะช่วยให้คุณลุงเลิกบุหรี่ให้ได้ เพราะการสูบบุหรี่นั้นจะส่งผลโดยตรงกับโรคประจำตัว
หลังจากนั้นผมก็ได้โทรติดตามคุณลุงอยู่เรื่อยๆ บางครั้งคุณลุงก็รับสาย
บางครั้งภรรยาคุณลุงก็รับสาย จากการพูดคุยในแต่ละครั้ง คุณลุงก็ได้บอกผมว่า
ผมยังเลิกไม่ได้ละครับ ผมยอมรับว่าผมยังสูบอยู่ ผมว่ามันเลิกยากนะ
แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณลุง ผมให้กำลังใจคุณลุงทุกครั้ง
และสอบถามอาการของคุณลุงอยู่เสมอผมใช้เวลาเป็นเดือนในการโทรติดตามและได้โทรหาคุณลุงเกือบทุกวัน
จนมีวันหนึ่งคุณลุงได้บอกกับผมว่า ผมไม่ดูดบุหรี่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ
มีอาการหงุดหงิดบ้างและนำวิธีการเลิกบุหรี่ที่คุณหมอแนะนำไปใช้แล้วนะครับ
มันก็ได้ผลอยู่ พอผมหยุดสูบบุหรี่ ผมรู้สึกว่าผมหายใจสะดวกขึ้น
ผมตัดสินใจแล้วว่าจะหยุดโดยเด็ดขาด และไม่ให้คุณหมอเป็นห่วงแล้วนะครับ
พอผมได้ฟังอย่างนั้นทำให้ผมได้มีกำลังใจขึ้น มีความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นในใจ
เพราะทีแรกผมก็คิดว่าคุณลุงคงจะเลิกไม่ได้แล้วแต่ผมก็เป็นห่วงคุณลุงเพราะคุณลุงมีโรคประจำตัวอยู่
หลังจากนั้นผมก็ได้โทรติดตามตลอดอีกหนึ่งสัปดาห์จนคุณลุงได้บอกกับผมว่าคุณลุงจะไม่กลับไปสูบอีกแล้วแน่นอน
เพราะหลังจากยุดสูบแล้วรู้สึกว่าสุขภาพดีขึ้นมาก หายใจสะดวกขึ้น
ไม่เหนื่อยง่ายเหมือนเมื่อก่อน
และผมก็ได้สอบถามกับคุณป้าว่าอาการของคุณลุงเป็นยังไงบ้าง
คุณป้าก็บอกว่าอาการของคุณลุงดีขึ้นและก็ดีใจที่คุณลุงเลิกบุหรี่ได้และขอบคุณคุณหมอมากๆเลยนะคะ
ที่ช่วยให้คุณลุงเลิกบุหรี่ได้
หลังจากนั้นผมก็ได้คุยเรื่องการป้องกันการเฝ้าระวังการกลับไปสูบซ้ำ
และการจัดการและหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้น
จนรู้สึกว่าคุณลุงเข้าใจและสามารถนำไปปฏิบัติได้
นี่ละครับคือประสบการณ์ครั้งแรกของผมที่ทำงานเกี่ยวกับการบำบัดคนไข้เลิกบุหรี่จากเคสนี้ทำให้ผมได้รู้ว่าถ้าเรามีจิตใจที่อยากจะช่วยและเป็นกำลังใจให้กับเขาอยู่เสมอก็จะเป็นสิ่งเสริมแรงทำให้คนไข้สามารถเลิกบุหรี่ได้ด้วยเช่นกัน
ซึ่งในปัจจุบันนี้ผมก็ได้บำบัดคนไข้เลิกบุหรี่ได้หลายคนแล้วซึ่งก็มีบางคนเลิกได้บ้างและเลิกได้บ้างซึ่งมันก็จะไม่ทำให้ผมท้อถอยในการเลิกบำบัดผู้ป่วยบุหรี่อย่างน้อยผมก็คิดว่ายังมีโอกาสทำให้คนส่วนหนึ่งเลิกได้และส่วนคนที่ยังเลิกไม่ได้ก็ยังสามารถให้เขาสูบลดลงได้
ถึงแม้ว่าคนยังไม่เลิกสูบก็ตามและผมก็จะบอกคนไข้เสมอว่าถ้ายังเลิกไม่ได้ก็ยังไม่เป็นไร
ถ้าอยากเลิกอีกเมื่อไหร่ผมยังรออยู่ที่คลินิกอดบุหรี่นะครับ
ผมเชื่อว่าทุกคนสามารเลิกได้นะครับ ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ
และสุดท้ายนี้ผมคิดว่าการที่คนไข้ติดบุหรี่อาจจะเป็นเพราะส่วนหนึ่งคือการขาดความมั่นคงทางด้านจิตใจและพิ่งพิง
สิ่งที่ทำให้เขามีความคิดว่าเป็นความสุขจนกลายเป็นความเคยชินและพฤติกรรมที่แก้ไขไดยากแต่ถ้าเราเข้าไปช่วยให้เขาเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านจิตใจและแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับเขาผมเชื่อว่าผู้ป่วยที่ติดบุหรี่สามารถเลิกบุหรี่ได้
และสำหรับผมมันไม่สำคัญหรอกครับว่าคนทุกคนที่เข้ามาในคลินิกต้องเลิกบุหรี่ได้ทุกคน
แค่ผมได้มีโอกาสช่วยให้คนทุกคนที่ติดบุหรี่ได้มีความคิดที่จะเลิกบุหรี่แค่นี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วนะครับ
เรื่องที่ 2 :
ผู้ป่วยจิตเวชกับการเลิกบุหรี่
ถ้าพูดถึงผู้ป่วยจิตเวช
หลายคนคงนึกถึงคนที่มีลักษณะทื่อๆไม่มีชีวิตชีวา เนื้อตัวมอมแมม ผมเผ้ารุงรัง มือ
เล็บเหลือง ฟันเหลืองเนื่องจากสูบบุหรี่มาก เช่นเดียวกับผู้ป่วยรายนี้ เป็นชายไทย
อายุ 38 ปี ผิวสีน้ำตาล
สีหน้าดูยิ้มแย้ม ท่าทีเป็นกันเอง
ปกติไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ เป็นเวลา 3-4 ปีแล้ว เนื่องจากบ้านอยู่ติดเขตจังหวัดขอนแก่น
แต่ปัจจุบันอาการปกติดีจึงขอมารับยาต่อที่โรงพยาบาลบัวใหญ่
และเมื่อมารับบริการทุกครั้งพยาบาลก็จะทำการซักประวัติเกี่ยวกับการสูบบุหรี่
และก็ได้ทราบว่าผู้ป่วยสูบบุหรี่มากกว่า 20 มวน/วัน จึงแนะนำเข้คลินิกอดบุหรี่
(คุ้นๆไหมคะ ก็ทำตามเทคนิค 5A เขานั่นแหละ)
ส่วนผู้ป่วยก็ดูมีท่าทีว่าสนใจอยากจะเลิก ดูตั้งใจ กระตือรือร้นดี แต่ญาติ(ภรรยา)
กลับดูไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวผู้ป่วยสักเท่าไร
พูดราวกับว่าผู้ป่วยจะไม่มีทางที่จะเลิกสูบบุหรี่ได้
จนทำให้ผู้บำบัดรู้สึกจิตตกไปด้วย พร้อมกับคิดในใจว่าจะไหวหรือเปล่าหละเนี่ย
แต่เราก็ทำตามกระบวนการบำบัดไปจนครบขั้นตอน
(โดยผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดครั้งแรกในวันที่ 5 กรกฎาคม 2555) แล้วก็นัดติดตามบำบัดต่อเนื่องอีก 1 สัปดาห์ ตามปกติ พร้อมกับคิดในใจอีกว่า เอาหละถ้าผู้ป่วยเลิกได้
หรือตั้งใจเลิกจริงๆเขาก็คงจะมาตามนัด
แต่ถ้าไม่มาตามนัดก็อาจมีแนวโน้มว่าจะเลิกไม่ได้ แต่เมื่อถึงวันนัดเราก็ต้องประหลาดใจ
เพราะผู้ป่วยก็ได้มาตามนัด แต่ญาติ(ภรรยา)ไม่ได้มาด้วย และในการบำบัดครั้งที่สองนี้ผลก็ปรากฏว่า.. ผู้ป่วยยังสูบบุหรี่อยู่ (ฮ่า
ๆ ๆ) แต่ ! สูบลดลงจากยี่สิบกว่ามวน/วัน เหลือแค่ 3-4 มวน/วันเท่านั้น
และที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังสามารถหยุดสูบได้ตั้ง 3 วัน โดยผู้ป่วยเล่าว่าใช้หมากผรั่งนิโคมายด์
และชาชงสมุนไพรหญ้าดอกขาวช่วยในการเลิกบุหรี่ และช่วยลดอาการถอนพิษนิโคติน แต่หลังจากนั้นเกิดอาการปวดมึนศีรษะและรู้สึกหงุดหงิด
จึงกลับมาสูบอีก
ปัจจุบันผู้ป่วยก็ยังคงมารับการบำบัดตามนัดอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกับยังสูบบุหรี่อยู่ที่ 3-4 มวน/วัน แต่ความประทับใจก็คือ
การที่ผู้ป่วยมีความตั้งใจที่จะเลิกและพยายามมาตามนัดทุกครั้ง
ถึงแม้ว่าจะยังเลิกได้ไม่เด็ดขาด และความท้าทายในครั้งนี้คือ
ผู้ป่วยจิตเวชซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสิ่งที่คู่กันกับบุหรี่
เพราะสังเกตเห็นว่าผู้ป่วยจิตเวชเพศชายที่มารับบริการที่โรงพยาบาลส่วนใหญ่มักจะสูบบุหรี่
แต่เรากำลังพยายามช่วยให้เขาเลิกบุหรี่ และก็ตั้งใจว่าจะพยายามต่อไป
ให้กำลังใจกันต่อไป จนกว่าเขาจะสามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ และโปรดติดตามตอนต่อไปกันนะคร้าบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น